เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าอาคารบ้านเรือนและสถาปัตยกรรม ต่างๆรอบๆตัวที่ถูกปล่อยให้รกร้าง ก่อนที่มันจะตกอยู่ในสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน มันมีสภาพอย่างไรมาก่อน แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนมีที่มาและมียุคที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับสถานที่เหล่านี้ และจะมีสถานที่แบบไหนกันบ้างมาดูกัน
1.สุสานรถยนต์ ประเทศเบลเยียม
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารอเมริกันจำนวนมากนิยมซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลไว้ใช้เอง กระทั่งสงครามสิ้นสุดลง พวกเขาก็พบว่าการจะนำรถดังกล่าวขนส่งกลับไปยังอเมริกานั้นมีราคาสูงเกินไป ทหารทั้งหมดจึงตัดสินใจทิ้งรถไว้ที่นี่ จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน รถยนต์ทุกคันก็กลายเป็นสนิมและไม่สามารถใช้งานได้ ชาวบ้านจึงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า สุสานรถยนต์
2.ทางรถไฟของปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ทางรถไฟ Chemin de fer de Petite Ceinture ของปารีส ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1852 เพื่อใช้สัญจรกลางใจเมือง เนื่องจากมีระบบการวิ่งเป็นวงกลมผ่านจุดต่าง ๆ ภายในป้อมกำแพงเมือง และหลังจากความก้าวหน้าในประเทศจึงได้มีการสร้างทางรถไฟแห่งใหม่ที่ใหญ่และสะดวกกว่าเดิม ทำให้ทางรถไฟ Chemin de fer de Petite Ceinture ถูกปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1934
3. โรงพยาบาลร้างในเชอร์โนบิล ประเทศยูเครน
นับเป็นเหตุการณ์ที่กล่าวขานกันไปทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน สำหรับการระเบิดของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่นอกจากจะส่งผลกับคนแล้วยังส่งผลต่อสถานที่ใกล้เคียงอย่างเช่น โรงพยาบาล ที่ต้องอพยพผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากพื้นที่ ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้กลายเป็นโรงพยาบาลร้างในที่สุด
4.ทางรถไฟของไต้หวัน
ไม่ต้องแปลกใจเลยหากทางรถไฟสุดสะพรึงของไต้หวันสายนี้จะถูกปิดตัวลง เนื่องจากทางการเกรงว่าหากเสี่ยงให้รถไฟวิ่งผ่านอาจจะเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกหน้าผาได้ง่าย ๆ จึงต้องสร้างทางรถไฟสายใหม่ขึ้นนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันก็มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นปกคลุมรางรถไฟ และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่รกร้างที่หลาย ๆ คนอยากจะไปสัมผัสสักครั้ง
5.สวนสนุกนะระ ประเทศญี่ปุ่น
สวนสนุกนะระ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และเปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 1961 แม้จะมีพื้นที่กว้างขวางและเครื่องเล่นมากมาย แต่ทว่าค่อนข้างอยู่ไกลจากตัวเมืองและการเดินทางก็ยังไม่สะดวก ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้ขาดทุนย่อยยับ สวนสนุกนะระจึงต้องปิดตัวลงในปี ค.ศ. 2006
6.ซากเรือบนสันทรายบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา หรือสามเหลี่ยมปีศาจ ที่มักดูดกลืนทั้งเครื่องบินและเรือลงไปใต้ท้องทะเล จนหลาย ๆ คนคิดว่านี่เป็นประตูที่จะข้ามไปอีกมิติหนึ่ง ทว่าเป็นเพราะก๊าซมีเทนที่อยู่ใต้ท้องทะเลเป็นจำนวนมากจนปะทุขึ้นเหนือท้องทะเล และเมื่อขยายตัวเป็นวงกว้าง มันจะดูดกลืนทุกสิ่งลงไปสู่ห้วงทะเลอย่างเช่นซากเรือเหล่านี้
7.เรือบ้านในทะเลสาบโอเบอร์ซี ประเทศเยอรมนี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทะเลสาบโอเบอร์ซีในประเทศเยอรมนี เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงามและถูกโอบล้อมด้วยภูเขาหลายลูก แต่ในอีกมุมหนึ่งของทะเลสาบยังมีเรือบ้านอันเก่าแก่ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย แถมยังมีน้ำท่วมขังอยู่ภายในอีกด้วย นับเป็นอีกภาพคลาสสิกชวนขนลุกนิด ๆ
8.ป่าลอยน้ำ ประเทศออสเตรเลีย
นับเป็นภาพคลาสสิกภาพหนึ่งสำหรับเรือ The SS Ayrfield ที่ถูกสร้างขึ้นในอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1911 เพื่อใช้ในการขนส่งเสบียงให้กองทัพทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะถูกขายเพื่อใช้เป็นเรือขนส่งถ่านหินระหว่างเมืองนิวคาสเซิลและเมืองซิดนีย์ ในปี ค.ศ. 1950 กระทั่งปี ค.ศ. 1972 เรือลำนี้ได้ถูกยกเลิกใช้ในการขนส่งสินค้า และจอดทิ้งไว้บริเวณปากอ่าว Homebush จนมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเต็มเรือ มันจึงถูกเรียกว่า “ป่าลอยน้ำ” นั่นเอง
9.พระราชวังในป่าร้าง ประเทศโปแลนด์
เรียกว่าสวยปนสยองเลยสำหรับพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1910 เพื่อใช้เป็นที่พักของพระบรมวงศานุวงศ์โปแลนด์ ก่อนจะเจออิทธิพลของการเมืองสมัยสหภาพโซเวียตที่เข้ามาครอบครองและทำให้พระราชวังกลายเป็นโรงเรียนสำหรับทำการเกษตร รวมทั้งเป็นที่พักของผู้พิการและผู้ป่วยทางจิตในเวลาต่อมา กระทั่งถูกทิ้งให้รกร้างเมื่อคราวสหภาพโซเวียตล่มสลายเมื่อปี ค.ศ. 1991
10.เมจิกบัสที่อะแลสกา สหรัฐอเมริกา
รถบัสหมายเลข 142 เป็นของคริสโตเฟอร์ จอห์นสัน ชาวอเมริกันที่หลงใหลการใช้ชีวิตในป่าและปรารถนาจะอยู่อย่างสันโดษ เขาจึงเข้าป่าไปพร้อมกับอาหารเพียงเล็กน้อยในเดือนเมษายน ค.ศ. 1992 กระทั่ง 4 เดือนต่อมามีคนพบศพของเขาอยู่ในรถบัสคันดังกล่าว คาดว่าเสียชีวิตเนื่องจากขาดน้ำและอาหารนั่นเอง และแม้จะมีการเคลื่อนย้ายศพออกไป แต่รถบัสหมายเลข 142 ยังคงจอดอยู่ที่เดิม
